ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

แฟรนไชส์ธุรกิจ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับยุคใหม่

ตามมาตรฐานโรงพยาบาล และบริการสุขภาพ

NURSING HOME INVESTMENT

ดูแลครบ จบในที่เดียว

สนใจธุรกิจแฟรนไชส์

อรรถพล พุทธารี
  1. โครงสร้างประชากรเปลี่ยนแปลงเร็ว สังคมไทยกำลังก้าวสู่ “สังคมสูงวัยสมบูรณ์” อย่างเต็มตัว อัตราการเกิดลดลง ขณะที่จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โครงสร้างประชากรเกิดภาวะไม่สมดุล และสร้างแรงกดดันต่อระบบการดูแล
  2. ครอบครัวขนาดเล็กและชีวิตโสดเพิ่มขึ้น การแต่งงานช้าลงหรือไม่แต่งงานเลย ส่งผลให้ผู้สูงอายุในอนาคตมีแนวโน้มต้องอยู่เพียงลำพัง ไม่มีบุตรหลานดูแลเหมือนในอดีต
  3. ค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ดูแลส่วนตัวสูงเกินเอื้อม โดยเฉพาะในระยะยาว ส่งผลให้ผู้มีรายได้ระดับกลางไม่สามารถเข้าถึงการดูแลที่มีคุณภาพได้
  4. ผู้สูงวัยคือทุนทางสังคมที่ต้องได้รับการเคารพและดูแล ผู้สูงอายุส่วนใหญ่คือผู้ที่ผ่านการทำงานหนัก สร้างคุณูปการต่อครอบครัวและสังคม การดูแลอย่างมีศักดิ์ศรีในบั้นปลายชีวิต จึงเป็นหน้าที่ที่เหมาะสม
  5. จำเป็นต้องพัฒนา “ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร” เพื่อตอบโจทย์ช่องว่างที่เกิดขึ้น ควรมีการลงทุนในศูนย์ดูแลผู้สูงวัยที่มีคุณภาพ เข้าถึงง่าย และบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คนทุกกลุ่มสามารถใช้บริการได้จริง

“ประสบการณ์การบริหารศูนย์ดูแลผู้สูงวัย กว่า 30 สาขา ทั่วประเทศไทย”

บริการดูแลผู้สูงวัยหรือผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ในทุกรูปแบบ

  • ดูแลไป-กลับ
  • ดูแลแบบพักประจำที่ศูนย์
  • ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
  • คลินิคกายภาพบำบัด

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และผู้ป่วยระยะฟื้นฟูแบบครบวงจรและทันสมัยด้วยโปรแกรม

  • โปรแกรมดูแลผู้สูงอายุ
  • โปรแกรมดูแลผู้ป่วยติดเตียง
  • โปรแกรมดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต
  • โปรแกรมดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์
  • โปรแกรมดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง
  • โปรแกรมดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด
  • โปรแกรมรักษาอาการปวดเรื้อรัง

ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาล รวมทั้งกิจกรรมบำบัด และกิจกรรมที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิต ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต

  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ เริมต้น 1,500,000 บาท ( ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่รวมค่าก่อสร้าง/ตกแต่งสถานที่ ) มีรายละเอียดดังนี้
  1. สิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้า
  2. สิทธิในการดูแลลูกค้าในพื้นที่
  3. การดำเนินการขอใบอนุญาตกับหน่วยงานของรัฐ
  4. การวางระบบบริหารงานในสถานประกอบการ
  5. การจัดหาบุคลากรที่มีมาตรฐานจากศูนย์บริบาลที่มีต้นทุนต่ำกว่าที่อื่น ได้แก่ ผู้ช่วยพยาบาล PN (Practical Nurse) และ NA (Nurse Aid)
  6. การฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร ผู้ประกอบการ, ผู้จัดการ, ผู้ช่วยพยาบาล, เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์, แม่บ้าน, แม่ครัว
  7. โปรแกรมการรักษาดูแลผู้ป่วย
  8. การบริหารระบบ Stock
  9. การตลาดและประชาสัมพันธ์
  10. ระบบ Call Center ดูแลลูกค้า 24 ช.ม ในการประเมินราคาก่อนใช้บริการ
  11. เอกสาร แบบฟอร์ม ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ
  12. ที่ปรึกษาทางธุรกิจตลอดอายุสัญญา
  13. ที่ปรึกษาทางกฎหมาย
  • งบประมาณค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ Startup ไม่เกิน 300,000 บาท
  • อายุสัญญาสมาชิก 5 ปี ต่อสัญญา 100,000 บาท : 5 ปี
  • ค่าธรรมเนียมรายเดือน ขั้นต่ำ เดือนละ 30,000 บาท
  • พื้นที่ใช้สอยของสถานประกอบการ เฉพาะภายในอาคารอย่างน้อย 120 ตารางเมตร
  • ทำเลที่ตั้งของสถานประกอบการ ติดถนนหลัก-ถนนรอง เดินทางเข้า-ออกง่าย และสะดวก
  • กรณีเช่าสถานที่ประกอบธุรกิจ ต้องมีระยะเวลาสัญญาเช่าไม่ต่ำกว่า 5 ปี
  • Franchisee ทำการตลาดประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ เพื่อหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
  • มีทัศนคติที่ดีต่อธุรกิจและอาชีพ
  • จิตใจดี โอบอ้อมอารีย์ มีเมตตา รักงานบริการ
  • มีความพร้อมและคล่องตัวทางการเงิน

รายได้จากการดูแลผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ขั้นต่ำเดือนละ 17,000-35,000 บาท/เตียง

ขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจ กรณี 10 เตียงขึ้นไป ใช้เวลาไม่เกิน 2.5-3.5 ปี

  • ผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
  • ผู้ป่วยระยะฟื้นฟู
  • ผู้ป่วยหลังผ่าตัด
  • ผู้ป่วยติดเตียง
  • ผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต
  • ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
  • เลือกทำเลพื้นที่ (Location) ที่ตั้งของสถานประกอบการ
  • ส่งภาพถ่ายสถานที่ แผนที่ พิกัดที่ตั้ง และเส้นทางการเดินทาง เพื่อพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้
  • ทีมการตลาดจากส่วนกลาง จะลงพื้นที่สำรวจความเป็นไปได้ ในเบื้องต้น และทำการตลาดโดยรอบ พิจารณาความเหมาะสมในการเปิดศูนย์
  • พื้นที่ได้ผ่านการพิจารณาเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ผู้ประกอบการชำระค่าจองพื้นที่จำนวน 30,000 บาท ค่าจองพื้นที่คิดเป็นส่วนหนึ่งของค่าเฟรนไชน์
  • ชำระค่าธรรมเนียมค่าเฟรนไชน์ และทำสัญญา ภายใน 30 วัน
  • ดำเนินการตกแต่ง จัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ อบรมผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
  • วิเคราะห์ศักยภาพของทำเลและตัวอาคารเพื่อประเมินรายได้เบื้องต้น
  • ตรวจสอบสภาพพื้นที่หน้างานจริง
  • ประเมินโครงสร้างเบื้องต้น เช่น การปรับปรุงระบบไฟฟ้า น้ำประปา และพื้นที่ใช้สอย
  • ประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการเปิดศูนย์ วิเคราะห์ข้อจำกัดหรือปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อโครงการ
  • ประเมินความพร้อมของสถานที่สำหรับเปิดศูนย์ฯ
  • จัดทำรายงานสรุปผลการสำรวจ
  • เสนอคำแนะนำเบื้องต้นสำหรับปรับปรุงพื้นที่
1) การวิจัยตลาด (Marketing Research)
  • เก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่
  • ประเมินอุปสงค์และอุปทานในตลาด
  • ศึกษาคู่แข่งในพื้นที่ และแนวโน้มการเติบโตของตลาด
  • เสนอแนวทางการประชาสัมพันธ์และแผนการตลาด
2) การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ (Feasibility Study)
  • วิเคราะห์ความคุ้มค่าและศักยภาพของโครงการ
  • ประเมินต้นทุนด้านการลงทุน เช่น ค่าก่อสร้าง ค่าอุปกรณ์
  • คำนวณผลตอบแทนเบื้องต้นและระยะเวลาคืนทุน
  • เสนอแนะแผนดำเนินงานเพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ
3) การจัดทำแผนการวางเตียงเบื้องต้น
  • วางแผนพื้นที่สำหรับจำนวนเตียงที่เหมาะสม
  • กำหนดตำแหน่งห้องต่าง ๆ เช่น ห้องพักฟื้น ห้องกิจกรรม ฯลฯ
  • ปรับแผนการจัดวางพื้นที่ให้เหมาะสมตามข้อกำหนดและความต้องการ (ข้อมูลนี้จะมีความแม่นยำมากขึ้นหากมีแปลนตึกที่ปรับปรุงแล้ว)
4) การให้คำปรึกษาเพิ่มเติม
  • เจ้าหน้าที่พร้อมให้คำปรึกษาด้านการวางแผนโครงการ
  • แนะนำการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะสม
  • ให้คำปรึกษาเรื่อง renovation หรือ ก่อสร้าง
  • ผู้ซื้อแฟรนไชส์ ต้องทำการเตรียมสถานที่ให้พร้อม ตามมาตรฐานที่แบรนด์กำหนด
  • ผู้ซื้อแฟรนไชส์ ต้องทำการเตรียม cash flow ไว้สำหรับการดำเนินกิจการ ตามที่แบรนด์กำหนด
  • การต่อสัญญาไม่ต้องจ่ายค่าแรกเข้าอีกครั้ง
  • การบริหารงานทุกอย่าง ตั้งแต่เริ่มต้นจัดหาบุคลากร ทางแบรนด์จะเป็นผู้จัดการทั้งหมด
  • ทางผู้ซื้อแฟรนไชส์ จะมีหน้าที่ตรวจบัญชีที่ทางแบรนด์ได้จัดเตรียมไว้ให้

สนใจธุรกิจแฟรนไชส์

อรรถพล พุทธารี

หมายเหตุ: เงื่อนไขต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของบริษัท ผู้ที่สนใจกรุณาตรวจสอบข้อมูลอัพเดทกับทางบริษัทโดยตรง